เคล็ดไม่ลับช่วยเลือกตู้เย็นมินิบาร์ให้โดนใจ

ตู้เย็นมินิบาร์

เคล็ดไม่ลับช่วยเลือกตู้เย็นมินิบาร์ให้โดนใจ

ตู้เย็นมินิบาร์

ตู้เย็น เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ความสำคัญและจำเป็นอย่างมาก เพราะตู้เย็นจะช่วยเก็บรักษาอาหารให้สดและใหม่อยู่เสมอ เพราะความเย็นจะช่วยหยุดยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ที่ทำให้อาหารเกิดการบูดเน่าได้เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยประหยัดเงินในทางอ้อม ซึ่งตู้เย็นในปัจจุบันก็มีอยู่หลากหลายรูปแบบ สำหรับคนที่อยู่คอนโด หอ หรืออพาร์ตเม้นต์คนเดียว ไม่อยากได้ตู้เย็นที่ใหญ่มากนักก็สามารถเลือกซื้อตู้เย็นมินิบาร์มาใช้ได้ วันนี้เราจะมาแชร์เคล็ดลับช่วยเลือกตู้เย็นมินิบาร์ให้โดนใจมาฝากกันเลย 

เลือกจากปริมาณความจุ

ปริมาณความจุของตู้เย็นมินิบาร์นั้นควรเป็นสิ่งที่แรกที่ต้องคำนึงถึง โดยจะมีเริ่มต้นตั้งแต่ 1.7 คิว (50 ลิตร)ขึ้นไป อย่างตู้เย็นมินิบาร์ขนาด 1.7 คิวนี้ ที่เหมาะสำหรับการติดตั้งเอาไว้ภายในห้องนอนหรือห้องนั่งเล่น เพราะด้วยขนาดที่กะทัดรัดจึงไม่เปลืองพื้นที่โดยรอบ ช่วยให้คุณสามารถจัดเก็บอาหารว่างหรือเครื่องดื่มเพื่อหยิบมาบริโภคได้ตามต้องการ หรือขนาด 3.5 คิว งสามารถจัดเก็บขวดน้ำหรือข้าวกล่องขนาดเล็กได้บ้างแล้ว ด้วยเหตุนี้ สำหรับคนที่มักจะทำอาหารบ่อย ๆ และมีพื้นที่จัดเก็บวัตถุดิบไม่พอในตู้เย็นหลัก คุณจึงสามารถใช้ตู้เย็นรุ่นนี้ในการจัดเก็บวัตถุดิบที่เกินมาได้เลย

เลือกตู้เย็นที่มีฟังก์ชันละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ

ตู้เย็นมินิที่มาพร้อมกับช่องแช่แข็ง การดูแลรักษาส่วนนี้อย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยป้องกันปัญหาน้ำแข็งเกาะจนใช้งานได้ไม่สะดวกนั่นเอง ซึ่งหากว่าคุณไม่มีเวลาลองมองหาตู้เย็นที่มีฟังก์ชันการละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานค่ะ และแม้ว่าระบบจะทำงานอัตโนมัติ แต่คุณก็ยังต้องคอยระมัดระวังน้ำแข็งที่ละลายแล้วไม่ให้หกเลอะเทอะด้วย

มีปุ่มปรับอุณหภูมิ เพื่อการใช้งานที่ยืดหยุ่น

ปุ่มปรับอุณหภูมินั้นจะช่วยให้คุณสามารถควบคุมระดับความเย็นของตู้เย็นมินิได้ ซึ่งนอกจากจะควบคุมอุณหภูมิได้แล้ว ยังสามารถควบคุมค่าไฟในแต่ละเดือนของคุณได้อีกด้วย เพราะยิ่งตู้เย็นต้องทำความเย็นด้วยอุณหภูมิต่ำมากเท่าไร ก็หมายถึงเครื่องต้องทำงานหนักและกินไฟมากขึ้นเท่านั้น ในทางกลับกัน หากตู้เย็นมีอุณหภูมิสูงขึ้น การทำงานของตู้เย็นก็จะน้อยลง ทำให้ประหยัดไฟมากขึ้นนั่นเอง

เลือกตู้เย็นมินิบาร์ที่ประหยัดไฟ

มองหาตู้เย็นมินิบาร์ที่มีฉลากประหยัดไปเบอร์ 5 เพราะมีข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับระดับการใช้ไฟฟ้าของเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น ๆ ระบุเอาไว้ ช่วยให้คุณสามารถคำนวณค่าใช้จ่ายรายปีได้ไม่ยาก โดยในฉลากจะระบุค่าการใช้พลังงานไฟฟ้า, ค่าประสิทธิภาพตัวเครื่องจะแสดงประสิทธิภาพออกมาได้มาก-น้อยเท่าไรต่อการใช้ไฟฟ้า 1 หน่วย และสุดท้ายคือ ระดับดาว ซึ่งจำนวนของดาวบ่งบอกถึงระดับการประหยัดไฟที่มากขึ้น เฉลี่ยระดับละ 5 – 10%

อยากได้ตู้เย็นมินิบาร์ไปใช้ แต่ไม่รู้จะไปซื้อที่ไหน หรือไม่รู้จะขนย้ายยังไง ปัญหาจะหมดไปถ้าคุณสั่งที่ LAZADA จัดส่งฟรีถึงหน้าบ้านของคุณเลย พร้อมมอบโปรโมชั่นดีๆ อีกมากมาย